๙๙๙ ผ้ายันต์สาริกา น้ำจันทร์ วัดแคนางเลิ้ง ๙๙๙

หลวงปู่ธูป หรือ พระราชธรรมวิจารย์ แห่ง วัดสุนทรธรรมทาน ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดแคนางเลิ้ง” ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงยุคสงครามอินโดจีนโดยในช่วงยุคนั้น ถือเป็นยุคแรก ๆ ที่ท่านสร้างวัตถุมงคล เครื่องรางที่ขึ้นชื่อลือชาของท่านจะเป็นลูกอม เนื้อผงมีสองขนาดคือขนาดเล็กไว้พกติดตัว และขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกเรียกว่า “ลูกอมศรีสวาท “เวลาเขย่าจะมีเสียงเนื่องจากด้านในจะใส่กริ่งเอาไว้ สำหรับไว้แขวนหน้าร้านหรือใส่ไว้ในลิ้นชักเก็บเงิน เห็นได้บ่อยตามร้านค้าใหญ่น้อยละแวกผ่านฟ้า นางเลิ้งในสมัยก่อน เครื่องรางยอดนิยมของท่านอีกอย่างที่เคยพบเห็นกันบ่อยจนชินตา ได้แก่ผ้ายันต์หลายต่อหลายแบบ เช่น ผ้ายันต์ธงรูปสามเหลี่ยมสำหรับบูชาแขวนไว้ตามบ้านเรือนเพื่อกันไฟ ผ้ายันต์ผืนเล็กขนาดผ้าเช็ดหน้าสำหรับพกพา เช่นผ้ายันต์แคล้วคลาดใช้รองด้านในของหมวก ที่เรียกขานกันว่า “ผ้ายันต์รองหมวก” ผ้ายันต์นางกวัก และ “ผ้ายันต์สาริกาน้ำจันทร์” คำว่า “สาริกาน้ำจันทร์” เป็นวิชาทางเมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง ที่มีมาแต่โบราณ โดยถือเคล็ดจากวันพระ จันทร์เพ็ญเดือนสิบสอง ในทางไสยเวทย์ถือเป็นดิถีมงคลฤกษ์ แสงจันทร์ให้ความความนุ่มนวลส่องประกายในพิธี ว่ากันว่า หากใช้วิชานี้ถูกต้องตามเคล็ดพีธีกรรมเพื่อลงตะกรุดเครื่องราง จะมีอานุภาพขนาดสามารถ อาพัดเหล้า ยาสั่ง ยาพิษ ทั้งหลายให้กลายเป็นน้ำเปล่าเลยทีเดียว ผ้ายันต์สาริกาน้ำจันทร์ นอกจากเด่นดังทางด้านเมตตา มหานิยมเข้าเฝ้าเจ้านาย ค้าขายดีมีกำไรแล้ว ยังมีประสบการณ์เรื่องแคล้วคลาดเป็นที่เชื่อถือกันมาแต่ครั้งสงคราม ผ้ายันต์ของท่าน มีการสร้างขึ้นหลายครั้ง เพื่อให้แจกจ่ายกันไปใช้ได้อย่างทั่วถึง ปัจจุบันผ้ายันต์ยุคต้นของท่านหาได้ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะผ้ายันต์สาริกาน้ำจันทร์ จัดเป็นเครื่องรางประเภทของดีที่ราคาไม่สูงมาก เล่นหาได้ง่ายจบง่าย สบายกระเป๋า ทั้งนี้เป็นเพราะส่วนใหญ่ เป็นผ้าพิมพ์ มีระบุครั้งที่ ตลอดจนปีที่สร้าง ไปถึงวิธีการอาราธนาไว้เสร็จสรรพ แม้ผ้ายันต์ยุคหลัง ๆก็มีพิมพ์เช่นกัน ส่วนใหญ่มีตราหมึกของวัดประทับไว้ด้วย การเล่นหาผ้ายันต์ยุคต้น ต้องดูความเก่าของเนื้อผ้า แม้เก็บรักษาดีเพียงใดเมื่อเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี สีของผ้าขาวย่อมกลายเป็นสีอมเหลือง ส่วนใหญ่ตามรอยพับมักมีการเปื่อยยุ่ย ขาดเป็นตามดแบบที่เรียกว่า “ผ้ากินตัว” พระราชธรรมวิจารณ์ (ธูป เขมสิริ) เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ 2441 ที่ตำบลบ้านหลวงเอียง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุปสมบทที่วัดสุนทรธรรมทาน เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ 2463 ได้รับฉายา “เขมสิริ” เป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ และยังได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมจากครูบาอาจารย์หลายๆท่าน ด้วยความเชี่ยวชาญแตกฉานในศาสตร์ต่าง ๆ ทำให้ท่านจะได้รับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกพระในพิธีต่างๆตลอดโดยตลอดในช่วงหลังกึ่งพุทธกาลเป็นต้นมา หลวงปู่ธูป มรณะภาพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ 2533 สิริรวมอายุได้ 92 ปี 3 เดือน 28 วัน